ทำไมการเลิกบุหรี่และเลิกยาเสพติดด้วยใจจึงทำได้ยาก

หลายๆท่านโดยเฉพาะผู้ที่ไม่ติดสารเสพติดมักจะพูดว่า การเลิกนั้นอยู่ที่ใจ หากคิดอยากจะเลิกเลิกเมื่อไหร่ก็เลิกได้ แต่ที่สุดแล้วก็เลิกไม่สำเร็จ โดยอาจจะบอกว่า "ที่จริงก็ยังไม่อยากเลิก" หรือ "เลิกได้แล้วสามวัน" เป็นต้น อันที่จริงคนที่สามารถเลิกได้ด้วยตนเองเลิกด้วยใจหรือเลิกด้วยการหักดิบนั้นมีอยู่จริงแต่มีจำนวนไม่มากนัก และหากสังเกตต่อไปจะพบว่าผู้ที่เลิกได้นั้นมักอยู่ในช่วงอายุ 40-60ปี และเลิกสำเร็จแล้วตั้งแต่วัยรุ่นโดยไม่ได้แตะต้องบุหรี่ยุคใหม่อีกเลย ซึ่งนั่นหมายถึง บุหรี่ในสมัยก่อนนั้นยังไม่ปรุงแต่งเท่าสมัยนี้ หากมีการสูบต่อเนื่องมาเรื่อยๆถึงปัจจุบัน หรือผู้สูบ เสพ หน้าใหม่ ก็จะพบว่าเปอร์เซ็นต์ที่สามารถหักดิบด้วยตัวเองได้นั้นน้อยมาก มีผลการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของคนไทยที่สูบบุหรี่(หกล้านคนจากสิบสองล้านคน) พยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่แต่เลิกไม่ได้ นั่นก็เพราะบุหรี่ที่มีฤทธิ์ของการเสพติดที่มากขึ้นทำให้เลิกได้ยากขึ้นนั่นเอง หรือแม้กระทั่งยาเสพติดอื่นๆเองก็มีการเพิ่มฤทธิ์ให้เสพติดและมีโทษร้ายแรงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ยาบ้าที่ในสมัยก่อนใช้ชื่อว่ายาม้า หรือกัญชา ที่ในปัจจุบันนี้ได้เพิ่มสารเสพติดอื่นผสมมาด้วยในกัญชานั่นเอง มีบันทึกจากบริษัทบุหรี่ชิ้นหนึ่งบันทึกไว้ว่า “เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าบุหรี่เป็นสิ่งเสพติด…

Continue Readingทำไมการเลิกบุหรี่และเลิกยาเสพติดด้วยใจจึงทำได้ยาก

ตอบข้อสงสัยเรื่องการสูบบุหรี่

ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ สูบบุหรี่วันละไม่กี่มวนคงไม่เป็นอะไร : เพียงแค่สูบวันละ 1-4 มวนก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงได้ เช่น มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 2.79 เท่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 2.74 เท่า สูบบุหรี่มาเป็นเวลานานแล้ว หากเลิกสูบจะเป็นอันตราย : แม้จะสูบบุหรี่มานานแค่ไหนแล้วก็ตาม การเลิกสูบก็ทำให้สุขภาพดีขึ้นและไม่มีอันตรายใดๆ สูบบุหรี่มาเป็นเวลานานแล้ว การเลิกสูบทันทีหรือที่เรียกว่าหักดิบ ร่างกายจะช็อคตาย : การหักดิบจะทำให้เกิดอาการอยากบุหรี่(อาการลงแดงหรืออาการเสี้ยนยา) แต่จะไม่มีอันตรายต่อร่างกาย อาการลงแดงจะค่อยๆหายไปในแต่ละวัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอและระวังเรื่องอาหาร คิดว่าจะช่วยลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ลงได้ : เป็นคนละเรื่องกัน การสูบบุหรี่เป็นการสะสมสารพิษในร่างกาย…

Continue Readingตอบข้อสงสัยเรื่องการสูบบุหรี่

ทำไมเลิกสารเสพติดด้วยใจจึงทำได้ยาก

หลายๆท่านโดยเฉพาะผู้ที่ไม่ติดสารเสพติดมักจะพูดว่า การเลิกนั้นอยู่ที่ใจ หากคิดอยากจะเลิกเลิกเมื่อไหร่ก็เลิกได้ แต่ที่สุดแล้วก็เลิกไม่สำเร็จ โดยอาจจะบอกว่า "ที่จริงก็ยังไม่อยากเลิก" หรือ "เลิกได้แล้วสามวัน" เป็นต้น          อันที่จริงคนที่สามารถเลิกได้ด้วยตนเองด้วยการหักดิบนั้นมีอยู่จริง แต่มีจำนวนไม่มากนัก และหากสังเกตต่อไปจะพบว่าผู้ที่เลิกได้นั้นมักอยู่ในช่วงอายุ 40-60ปี และเลิกสำเร็จแล้วตั้งแต่วัยรุ่นโดยไม่ได้แตะต้องบุหรี่ยุคใหม่อีกเลย ซึ่งนั่นหมายถึง บุหรี่ในสมัยก่อนนั้นยังไม่ปรุงแต่งเท่าสมัยนี้ หากมีการสูบต่อเนื่องมาเรื่อยๆถึงปัจจุบัน หรือผู้สูบ เสพ หน้าใหม่ ก็จะพบว่าเปอร์เซ็นต์ที่สามารถหักดิบด้วยตัวเองได้นั้นน้อยมาก มีผลการสำรวจในปี 2552 พบว่าครึ่งหนึ่งของคนไทยที่สูบบุหรี่(หกล้านคนจากสิบสองล้านคน) พยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่แต่เลิกไม่ได้ นั่นก็เพราะบุหรี่ที่มีฤทธิ์ของการเสพติดที่มากขึ้นทำให้เลิกได้ยากขึ้นนั่นเอง…

Continue Readingทำไมเลิกสารเสพติดด้วยใจจึงทำได้ยาก

บทสัมภาษณ์ประธานมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด

ค่ายเยาวชน "โครงการลด ละ เลิก บุหรี่ และพัฒนาบุคลิกภาพ"     ปณิธาน   "ความภูมิใจสูงสุดของดิฉันในวันนี้ คือโอกาสที่ได้ทำให้คนไทย ประเทศชาติ และสังคม ปลอดสารเสพติด ได้คืนคนดีกลับสู่สังคม เราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งด้วยปณิธานอันแน่วแน่ที่จะนำมาซึ่งความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีคุณค่าต่อสังคมด้วยจิตที่มีความกตัญญูต่อแผ่นดินที่เกิดตลอดไป"        ด้วยเจตนารมณ์ที่บริสุทธิ์ของประธานมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด ได้ขอให้บริษัทชาบัวหิมะช่วยเหลือสังคมในประเทศชาติ คนไทยจึงมีโอกาสได้ใช้ชาบัวหิมะ ในการบำบัดเลิกบุหรี่และสารเสพติดขอให้ท่านสบายใจเพราะไม่มีความเสี่ยงในการเลิก เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียงในการบำบัด ทางมูลนิธิฯได้ทำการวิเคราะห์และวิจัยโดยได้รับความร่วมมือจากแพทย์และเภสัชกรซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เราภูมิใจที่เรามีตัวบำบัดตามธรรมชาติที่ทำการเพาะปลูกในประเทศได้และมีความหวังว่าคนไทยจะมีปอดสะอาดปราศจากควันบุหรี่และสารเสพติด        เราจะยืนหยัดหยุดยั้งต่อต้านสารเสพติดที่กำลังทำลายประเทศชาติและสังคม ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนที่รักแผ่นดินสมัครเป็นสมาชิกกับมูลนิธิฯในการรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด…

Continue Readingบทสัมภาษณ์ประธานมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด

กว่าจะเป็นมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด

บทความโดย "คุณพณิช  บัวหิมะทองคำ" ผู้ก่อตั้งมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด ด้วยความกตัญญูต่อแผ่นดินและได้คำนึงถึงสุขภาพของตนเอง, ครอบครัว สิ่งแวดล้อมของสังคม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และด้วยจิตสำนึกของการเป็นผู้นำครอบครัว อ.พณิช บัวหิมะทองคำ ได้มีอุดมการณ์ว่า“อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในครอบครัว ก็จงทำประโยชน์แก่ครอบครัว อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศชาติ ก็จงทำประโยชน์แก่แผ่นดิน” ซึ่งคนมีเงินส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความคิดเช่นนี้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น ผู้สื่อข่าวได้เคยไปที่ตลาดอ.ต.กและได้พบกับไฮโซท่านหนึ่งขณะที่กำลังซื้อทุเรียนอยู่จึงได้ถามว่า “ที่ท่านซื้อทุเรียนในราคาลูกละ1500บาท ไม่แพงไปหรือ?” (เวลานั้นในตลาดอื่นขายเพียงผลละ250บาท) ท่านได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “แพงอย่างไรหรือ?” โดยที่ท่านไม่เข้าใจในคำถามของผู้สื่อข่าวเลย ซึ่งผมไม่ตำหนิท่านผู้นั้นเพราะท่านมีเงินทองที่พ่อแม่ทำเอาไว้ให้ ดังเช่น ผม อ.พณิช บัวหิมะทองคำ อาศัยอยู่ในย่านบางลำพู พ่อและแม่มีอาชีพค้าทอง จัดอยู่ในลำดับนักธุรกิจที่พอมีอันจะกิน มีรถแท็กซี่ออสตินแวน ไว้ให้เช่า 30-40 คัน…

Continue Readingกว่าจะเป็นมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด