โครงการค่ายเลิกสารเสพติดสำหรับเยาวชน

 

ระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการ 15 วัน

รับผู้เข้ารับบำบัดทั้งหมดจำนวน – – คน

จัดที่ ค่ายพลร.9 กาญจนบุรี หรือ กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ ๑ กรมการสัตว์ทหารบก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ลักการและเหตุผล

โครงการเยาวชนไทยปลอดภัยห่างไกลยาเสพติดเกิดขึ้นเนื่องจาก มีเยาวชนที่ติดยาเสพติดและผู้ปกครองได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติดเป็นจำนวนมาก โดยในขณะที่ผู้เสพมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่วิธีช่วยให้เลิกนั้นกลับมิได้มีให้เลือกมากตามไปด้วย ดังนั้นโครงการนี้จึงได้เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์คือต้องการช่วยเหลือเยาวชนที่ติดยาเสพติดชนิดต่างๆ แต่ไม่สามารถเลิกยาเสพติดเหล่านั้นได้ โดยการบำบัดกับทางมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติดจะเป็นการเข้ารับการบำบัดแบบสมัครใจและไม่เสียประวัติ

การบำบัด

                ปัจจุบันมีหน่วยงานต่างๆให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ที่ติดบุหรี่,สุรา และยาเสพติดมากมาย แต่กลับมีหน่วยงานที่คอยให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดแล้วอยากเลิกน้อยกว่ากันมาก ซึ่งหน่วยงานที่คอยช่วยเหลือผู้ที่เสพนั้นไม่เพียงพอและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่ต้องการเลิก

จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมากว่าสิบปีของมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด พบว่าการบำบัดผู้ติดสารเสพติดหากใช้กำลังใจเพียงอย่างเดียวผลสำเร็จจะค่อนข้างน้อย มูลนิธิฯจึงได้นำตัวบำบัดคือ“ชาบัวหิมะ”เข้ามาใช้ควบคู่กับระบบบำบัดและกิจกรรมอื่นๆตลอดมา และพบว่าการบำบัดประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้เสพสามารถเลิกได้จริงประสบความสำเร็จถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ มีสุขภาพที่ดีขึ้นและสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคมได้อีกครั้ง “ชาบัวหิมะ” จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางมูลนิธิฯใช้ในการบำบัดมาโดยตลอด

ชาบัวหิมะ มีลักษณะเป็นชาธรรมชาติ นำมาใช้ชงกับน้ำร้อนเพื่อดื่มขับล้างสารพิษสารเสพติดในร่างกายของผู้เสพ และยังช่วยสร้างภูมิป้องกันเพื่อไม่ให้สารเสพติดเข้าสู่ร่างกายได้อีกโดยง่าย ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุคืออาการติดสารเสพติด โดยเมื่อขับล้างออกแล้วจะทำให้ผู้ติดสารเสพติดสามารถควบคุมตัวเองได้อย่างเต็มที่และไม่กลับไปเสพอีกได้อย่างประสบความสำเร็จ การบำบัดนี้จะทำควบคู่ไปกับการให้คำแนะนำปรึกษา การแก้ไขวิธีคิด และความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับบุหรี่ สุรา หรือยาเสพติด อีกทั้งต้องมีความเข้าใจถึงสภาพจิตใจของผู้ที่เสพและครอบครัวของผู้ที่เสพด้วย

 

 วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่ติดสารเสพติดให้มีโอกาสในการเลิกจากสารเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. รณรงค์ให้เยาวชนทราบถึงโทษภัยที่ได้รับจากการสูบบุหรี่ สุรา และเสพสารเสพติด
  1. เพื่อคืนเยาวชนที่ดีกลับสู่สังคม และกลายมาเป็นพลังที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต
 

เยาวชนที่เข้ารับการบำบัดต้องมีคุณสมบัติดังนี้

 

  1. เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน ๑๘ ปี โดยผู้ปกครองต้องรับทราบและเป็นผู้รับรองการเข้าร่วมโครงการ
  1. เป็นบุคคลที่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน
  1. เยาวชนที่จะเข้ารับการบำบัดต้องสมัครใจในการเข้ารับการบำบัด
  1. เยาวชนผู้เข้ารับการบำบัดต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เพียงพอที่จะสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆของมูลนิธิฯ โดยต้องสามารถพูดคุยและสื่อสารได้อย่างปกติ
  1. เยาวชนผู้เข้ารับการบำบัดต้องไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงอันเกินแก่กำลังของเจ้าหน้าที่ที่ดูแล
  1. มูลนิธิฯต้องได้พูดคุย สัมภาษณ์เยาวชนที่ต้องการเข้ารับการบำบัด รวมถึงผู้ปกครองก่อนเริ่มบำบัด
  1. มีบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลที่สามารถดูแลได้พักอาศัยอยู่ร่วมกัน
 

วิธีดำเนินการ

 

มูลนิธิฯจะเน้นการนำตัวบำบัดไปใช้บำบัดช่วยเหลือเยาวชนที่เป็นทั้งกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่ติด โดยมิใช่เป็นเพียงแค่การบอกให้ทราบแต่เพียงโทษภัยเท่านั้น แต่จะเป็นการพยายามช่วยเหลือเยาวชนให้ออกจากสารเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยวิธีการบำบัดนั้นคือ

 

การบำบัดโดยเข้าค่ายนอกสถานที่

 

  • การเข้าค่ายนอกสถานที่ใช้ระยะเวลาดำเนินการ15 วัน โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดบุหรี่, สุรา และยาเสพติด
  • นำตัวบำบัดไปใช้ในค่ายเพื่อผลสัมฤทธิ์ จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาทำให้ทางมูลนิธิฯทราบดีว่าการออกจากสารเสพติดนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ไม่ใช่เพียงแค่บอกให้ทราบแต่เพียงโทษภัยเท่านั้นแต่ต้องบอกถึงวิธีการเลิกสารเสพติดอย่างได้ผลด้วย ทางมูลนิธิฯใช้ชาบัวหิมะซึ่งเป็นธรรมชาติบำบัดมิใช่ยาเคมีที่ทำให้เซื่องซึม โดยจะมีการควบคุมจากเจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิฯหรือแพทย์ประจำห้องพยาบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เด็กมีวินัยในการดื่มตัวบำบัด และต้องทำตามที่เจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิฯแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • มีกิจกรรมต่างๆสำหรับผู้เข้ารับการบำบัดในแต่ละวัน โดยทำเป็นตารางเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจได้ตรงกัน ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้ารับการบำบัดในด้านการฟื้นฟูสุขภาพกายและสุขภาพจิต
  • ใช้กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ ๑ กรมการสัตว์ทหารบก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่จัดค่าย
  • ในระหว่างการเข้ารับการบำบัดต้องมีการบันทึกติดตามอาการะหว่างบำบัด เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่มูลนิธิฯทราบและตรวจสอบการบำบัด
 

 ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 

  1. เยาวชนที่เข้าร่วมในโครงการสามารถเลิกสารเสพติดได้มากกว่าร้อยละ ๙๐
  1. สามารถคืนเยาวชนที่ดีกลับคืนสู่สังคมและช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป
  1. ลดปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากยาเสพติด
  1. สร้างสังคมไทยเป็นเมืองสีขาว ปลอดจากสารเสพติด
 

   การประเมินผล

 

  1. ประเมินจากเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการโดยใช้แบบสอบถาม การทดสอบทางร่างกาย และการพูดคุยเพื่อทดสอบสภาพจิตใจ
  1. ประเมินผลลัพธ์ของโครงการ โดยการปรึกษาพูดคุย ใช้แบบสอบถามเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการโดยการสุ่มตัวอย่าง
 

                มูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติด มีตัวบำบัดที่นำไว้ใช้บำบัดผู้ที่ติดบุหรี่ สุรา และยาเสพติดอย่างได้ผลจริง ผ่านการทดลองและวิจัยแล้ว  โดยเมื่อตัวบำบัดนั้นสามารถใช้ได้ผลดี มูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติดจึงได้นำมาใช้เป็นตัวบำบัดสำหรับผู้ติด โดยตัวบำบัดที่ทางมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติดใช้นั้นเรียกว่า “ชาบัวหิมะ” ลักษณะเป็นชาชงดื่มเพื่อขับล้างสารพิษ สารเสพติดในร่างกายของผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เสพยาเสพติด เพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติคือเหมือนกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือเสพยาเสพติด ทำให้สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่มีความอยากความต้องการสารเสพติดเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา

                “ชาบัวหิมะ” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางมูลนิธิฯนำมาใช้ในการบำบัด เนื่องจากปัจจุบันมีหน่วยงานต่างๆเป็นส่วนให้ความรู้แก่ประชาชน และผู้ที่ติดบุหรี่, สุรา, ยาเสพติดมากมาย แต่กลับมีหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ติดแล้วอยากเลิกเป็นจำนวนน้อย ไม่เพียงพอและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ มูลนิธิฯจึงต้องการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ โดยมีเป้าหมายคือช่วยให้เขาเหล่านั้นสามารถเดินออกจากสิ่งเสพติดได้อย่างแท้จริง และไม่หวนกลับไปอีก โดยชาบัวหิมะได้มีการวิเคราะห์ และผ่านการวิจัยแล้วว่า สามารถเลิกได้อย่างเห็นผลแท้จริง  จากการค้นคว้าวิจัยของมูลนิธิฯ พบว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ติด สามารถเลิกได้อย่างเห็นผล. จากการทดลองวิจัยมูลนิธิฯจึงมีความเห็นว่าชาบัวหิมะเป็นวิธีที่ดีและได้ผลที่สุดในการบำบัดผู้ที่ติดสารเสพติด มูลนิธิฯจึงได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในการบำบัดผู้ที่ติดบุหรี่, สุรา และยาเสพติดมาโดยตลอด

                   ชาบัวหิมะมีลักษณะเป็นชาธรรมชาติ ใช้ชงกับน้ำร้อน ดื่มเพื่อขับล้างสารพิษ ถอนยาเสพติดออกจากร่างกาย และป้องกันมิให้สารเสพติดกลับเข้าสู่ร่างกายได้อีกโดยง่าย  ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุคืออาการติดสารเสพติด โดยจะมีการบำบัดควบคู่ไปกับการให้คำแนะนำปรึกษา รวมถึงมีการแก้ไขทางความคิด ความเข้าใจที่ผิดๆเกี่ยวกับบุหรี่, สุรา หรือยาเสพติด และยังต้องเข้าใจถึงสภาพจิตใจของผู้เสพรวมไปถึงบุคคลในครอบครัวของผู้ที่ติดสารเสพติดต่างๆด้วย

สาเหตุที่แท้จริงของปัญหายาเสพติดนั้นส่วนใหญ่เกิดหรือเริ่มต้นจากที่บ้าน เช่น ปัญหาทางครอบครัว, พ่อแม่ลูกไม่ค่อยได้พูดคุยกัน, สามีภรรยาไม่เข้าใจกัน เป็นต้น ซึ่งหากครอบครัวได้ดูแลทำความเข้าใจกัน  ให้ความรักความเอาใจใส่กันในครอบครัวได้เป็นผลสำเร็จนั้น จะเป็นผลที่ดีต่อทั้งผู้สูบ/เสพและคนในครอบครัวของผู้เสพ โดยหลังการเลิกนั้นเป็นส่วนสำคัญมากในการปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันในครอบครัวหรือบุคคลรอบข้าง

โครงการที่ทางมูลนิธิรณรงค์ช่วยให้เลิกบุหรี่และสารเสพติดจัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเลิกมีโอกาสในการเลิกที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับการบำบัด โดยหากมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลผู้ที่ติดก็จะสามารถทราบได้ถึงความเป็นไปและลักษณะอาการของผู้เข้ารับการบำบัดได้ดีกว่าการนำไปบำบัดเอง